7 จุดสำคัญ! วิธีเช็ครถก่อนเดินทางไกล

นับถอยหลังเทศกาลหยุดยาวอย่างช่วงสงกรานต์แบบนี้ หลาย ๆ คนอาจวางแผนหนีร้อนไปพักผ่อนหย่อนใจ เที่ยวทะเล ขึ้นดอย หรือกลับไปเยี่ยมครอบครัว ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัด ซึ่งก่อนจะเดินทางไกลในแต่ละครั้ง นอกจากเรื่องของสภาพร่างกายผู้ขับขี่แล้ว การตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกลก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและไม่ต้องปวดหัวกับปัญหารถเสียหรืออุบัติเหตุระหว่างทาง วันนี้ทางบริษัทที่ให้รถเช่า Drive Car Rental ผู้ให้บริการรถเช่าสนามบินภูเก็ตและรถเช่า กทม ได้รวบรวมเช็คลิสต์สำหรับตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกลด้วยตัวเองมาฝากทุกคนกันครับ ซึ่งแต่ละจุดที่เราควรเช็คมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!

ตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล ควรเช็คอะไรบ้าง?

1. แบตเตอรี่รถยนต์

จะเช็คสภาพรถก่อนเดินทางไกล ต้องนึกถึงแบตเตอรี่เป็นอันดับแรก เพราะแบตเตอรี่ก็เปรียบเสมือนหัวใจหลักของรถทุก ๆ คัน โดยปกติแล้วแบตเตอรี่จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แบบแห้ง แบบน้ำ แบบกึ่งแห้ง และแบบไฮบริด หากเป็นแบบที่ต้องใช้น้ำกลั่น (แบบน้ำ, แบบกึ่งแห้ง, แบบไฮบริด) ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่และอย่าลืมเช็ควันหมดอายุรวมถึงประสิทธิภาพการทำงาน หากพบว่ารถเริ่มมีอาการสตาร์ทติดยาก แสดงว่าแบตเตอรี่อาจจะใกล้หมดอายุแล้ว ควรเตรียมตัวเปลี่ยนลูกใหม่

2. ยางรถยนต์

ยางแตก ยางระเบิด ต้นเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งเกิดจากการใช้ยางที่เสื่อมสภาพเป็นเวลานาน ๆ สำหรับใครที่ต้องการตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล ควรหมั่นสังเกตว่ายางที่ใช้อยู่นั้นมีรอยรั่ว รอยเจาะ อาการบวม หรือดอกยางเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบเปลี่ยนยางใหม่ทันที! และตรวจเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อรวมถึงยางอะไหล่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยรถยนต์ขนาดเล็กควรเติมลมยางอยู่ที่ 25-30 ปอนด์ รถยนต์ขนาดกลางอยู่ที่ 30-35 ปอนด์ และรถกระบะอยู่ที่ 35-40 ปอนด์

3. น้ำมันเบรกและระบบเบรก

ขับรถระยะทางไกล ๆ เรื่องของเบรกไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะหากคุณต้องขึ้นเขา ลงดอย หรือต้องวิ่งบนถนนที่มีน้ำท่วมขัง หากระบบเบรกเสื่อมก็อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน ควรสังเกตผ้าเบรกและเสียงเบรกว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ หากมีเสียงผิดปกติระหว่างที่เหยียบเบรก หรือต้องกดเบรกจนลึกมากถึงจะสามารถหยุดรถได้ แสดงว่าผ้าเบรกอาจมีปัญหา

ในส่วนของน้ำมันเบรกนั้น โดยปกติควรอยู่ในระดับขีด Max หรือระหว่างขีด Min และ Max หากน้อยกว่านี้ อาจทำให้ระบบเบรกมีปัญหา หรือถ้าคุณเพิ่งเติมน้ำมันเบรกไปแต่ระดับน้ำมันลดลงเร็วผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่ามีจุดรั่วไหล ควรรีบตรวจสอบและซ่อมแซมโดยเร็ว

4. น้ำมันเครื่อง

ข้อที่หลายคนอาจมองข้ามเวลาจะเช็ครถก่อนเดินทางไกล พอเห็นน้ำมันยังพอมีเหลือ บางคนอาจคิดว่า “ไม่เป็นไรหรอก เจอปั๊มข้างหน้าเดี๋ยวค่อยเติม” พอขับไปขับมา รู้ตัวอีกทีน้ำมันเกลี้ยง ปั๊มก็ไม่เจอ ต้องมาจอดเหงาอยู่ข้างทาง ดังนั้น ก่อนจะเดินทางไกลทุกครั้งควรเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และควรซื้อน้ำมันสำรองติดรถเอาไว้อย่างน้อย 1 ลิตรเผื่อได้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

นอกจากนี้ หากรถคันไหนที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ อย่าลืมนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายจากสิ่งสกปรกและความชื้นที่อยู่ในน้ำมันเก่า

5. หม้อน้ำ

ขับรถฝ่าแดดร้อน ๆ ยังไม่พอ ถ้าเครื่องยนต์ยิ่งร้อนมาก ๆ อีก บอกเลยว่ามีพัง! ก่อนจะเดินทางไกลทุกครั้งควรเช็คหม้อน้ำรถยนต์ให้ดีว่ามีน้ำหล่อเย็นเพียงพอหรือไม่ ระบบมอเตอร์ทำงานปกติหรือเปล่า รวมถึงรอยรั่วตามจุดต่าง ๆ ถ้าเจอปัญหาตรงไหนให้รีบซ่อมแซมทันที และที่สำคัญ ควรเติมน้ำยาหล่อเย็นตามระยะทางที่กำหนด เพื่อให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้ตามปกติ

ข้อควรระวัง : ไม่ควรใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำยาหล่อเย็น เพราะน้ำเปล่ามีจุดเดือดที่ต่ำกว่า เมื่อเจอความร้อนของเครื่องยนต์จะทำให้ระเหยและไม่สามารถระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ

6. ระบบไฟ

เรื่องของระบบไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟต่าง ๆ อย่างไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟสูง ไฟตัดหมอก ฯลฯ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กแต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันสำหรับการเช็ครถก่อนเดินทางไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องขับรถในเวลากลางคืนหรือในบริเวณที่มีแสงน้อย หากไฟดับ ๆ ติด ๆ หรือมัวจนมองไม่เห็น ก็อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ถ้าพบว่ามีไฟจุดไหนที่ดับหรือเสียควรเปลี่ยนหลอดใหม่หรือนำไปให้ช่างแก้ไขทันที

7. แผ่นกรองอากาศ

หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่า “แผ่นกรองอากาศ” ก็เป็นอีกสิ่งจำเป็นเมื่อต้องเช็ครถก่อนเดินทางไกล เพราะแผ่นกรองอากาศจะจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ หากปล่อยให้แผ่นกรองอากาศอุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักและทำให้สึกหรอเร็วขึ้น

โดยเราสามารถทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเองได้ เพียงเปิดตู้แอร์แล้วนำตัวกรองอากาศออกมาเป่าไล่เศษฝุ่นภายในตู้ออก หรือจะเปลี่ยนใหม่ก็ได้ถ้าแผ่นกรองอากาศนั้นสกปรกมากและมีสภาพไม่ค่อยดีแล้ว

สรุป

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นวิธีตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกลเบื้องต้นที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แต่ถึงแม้ว่าคุณอาจไม่ได้เดินทางไปไหนไกล ๆ รถที่ใช้งานเป็นประจำก็จำเป็นต้องได้รับการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้ร่วมทริปทุกคนนั่นเองครับ

หรือถ้าคุณจำเป็นต้องเดินทางไกลบ่อย ๆ แต่ไม่สะดวกใช้รถส่วนตัว Drive Car Rental ขอแนะนำบริการเช่ารถกรุงเทพ ที่ง่าย สะดวก และปลอดภัย อุ่นใจด้วยรถยนต์ใหม่ เช็คสภาพแบบ 100% ทุกจุด! พร้อมบริการช่วยเหลือโดยทีมงานมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง หากสนใจสามารถติดต่อจองรถกับเราได้บนหน้าเว็บไซต์เลยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก:

carsome, cleanipedia