เทศกาลตรุษจีนถือเป็นเทศกาลปีใหม่อันยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของชาวจีน ซึ่งเป็นประเพณีที่ไม่ได้มีการเฉลิมฉลองกันภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีน แน่นอนว่าเทศกาลสำคัญ มักจะมีเรื่องราว พิธีกรรม และข้อปฏิบัติมากมาย ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน มาดูกันว่าวันตรุษจีนต้องทำอะไรบ้าง รวมไปถึงข้อห้ามต่าง ๆ ที่ไม่ควรทำในช่วงเทศกาลนี้ด้วย
ทำความรู้จักกับ “ประวัติวันตรุษจีน”
วันตรุษจีน หรือ “วันปีใหม่จีน” มีรากฐานจากวัฒนธรรมเกษตรกรรมของจีน เพราะวันตรุษจีนตรงกับช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเริ่มต้นเพาะปลูกพืชผลใหม่ ชาวจีนจึงถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งการเริ่มต้นใหม่และการหวังผลผลิตที่ดีในปีนั้น
เชื่อมโยงกับการเฉลิมฉลองเพื่อขอบคุณเทพเจ้าและธรรมชาติ มีตำนานเล่าขานกันว่า เทศกาลตรุษจีนเริ่มต้นจากการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า “เหนียน” ซึ่งจะออกมาทำร้ายผู้คนในคืนขึ้นปีใหม่ ในวันหนึ่งชาวบ้านได้ค้นพบว่าปีศาจเหนียนกลัวสีแดงและเสียงดัง จึงเป็นที่มาของประเพณีการประดับตกแต่งด้วยกระดาษหรือโคมสีแดงและการจุดประทัด เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำโชคดีมาสู่ครอบครัว
ในอดีต เทศกาลตรุษจีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมเกษตรกรรมของจีน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ชาวนาได้พักผ่อนหลังจากเก็บเกี่ยวพืชผลเสร็จสิ้น และเตรียมตัวสำหรับการเพาะปลูกในปีถัดไป นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกัน เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัว และการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต
3 วันสำคัญ ของเทศกาลวันตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีนประกอบด้วยวันสำคัญ 3 วัน อันได้แก่ วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว ซึ่งแต่ละวันมีความหมาย ความสำคัญ และกิจกรรมที่แตกต่างกันไป ดังนี้
วันจ่าย
วันจ่ายเป็นวันที่อยู่ก่อนวันไหว้หนึ่งวัน ในวันนี้ชาวจีนจะออกไปจับจ่ายซื้อของเตรียมไว้สำหรับการไหว้เจ้าและการเฉลิมฉลอง ซึ่งของที่จำเป็นต้องซื้อประกอบด้วยอาหารคาว หวาน ผลไม้ และเครื่องไหว้ต่าง ๆ รวมถึงกระดาษไหว้เจ้า ธูป เทียน และของใช้จำเป็นสำหรับพิธีกรรม
วันไหว้
วันสำคัญที่สุดของเทศกาลตรุษจีน ตรงกับวันสิ้นปีหรือวันส่งท้ายปีเก่า ในวันนี้ครอบครัวจะทำพิธีไหว้เจ้าที่เจ้าทาง บรรพบุรุษ และเทพเจ้า เพื่อขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง
วันเที่ยว
ถือเป็นวันแรกของปีใหม่จีน ในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่และเพื่อนฝูง เพื่ออวยพรปีใหม่ มีการมอบอั่งเปาให้เด็ก ๆ และผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน รวมถึงการเที่ยวชมการแสดงต่าง ๆ เช่น การเชิดสิงโต การแสดงมังกร และการจุดประทัด เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต
วันตรุษจีน ทำอะไรบ้าง
ในเทศกาลตรุษจีน มีธรรมเนียมและประเพณีปฏิบัติมากมายที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เพื่อความเป็นสิริมงคลและเสริมดวงชะตาในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง มาดูกันว่าวันตรุษจีนทำอะไรบ้าง
ควรไหว้รับ “ไฉ่ซิงเอี้ย”
ไฉ่ซิงเอี้ยเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภของชาวจีน มีความเชื่อว่าในคืนวันตรุษจีนท่านจะลงมาแจกโชคลาภและความมั่งคั่งให้แก่ผู้คน การไหว้รับไฉ่ซิงเอี้ยมักทำในเวลาเที่ยงคืนของวันตรุษจีน โดยจัดเครื่องเซ่นไหว้ประกอบด้วยผลไม้มงคล ขนมหวาน และธูปเทียน พร้อมกล่าวคำอธิษฐานขอพร
ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ก่อนวันตรุษจีน
มีความเชื่อว่าการทำความสะอาดบ้านก่อนตรุษจีน เป็นการปัดกวาดสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน เริ่มตั้งแต่การล้างพื้น เช็ดหน้าต่าง จัดระเบียบข้าวของ และทิ้งสิ่งของที่ไม่จำเป็น เพื่อเป็นการเตรียมตัวรับสิ่งดี ๆ ที่กำลังเข้ามา
ตกแต่งบ้านด้วยสีแดงและตัวอักษรมงคล
เมื่อถึงวันตรุษจีนชาวจีนมักประดับตกแต่งบ้านด้วยสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นมงคล นอกจากนี้ยังนิยมติด “ตุ้ยเลียน” หรือคำอวยพรคู่ที่ประตูบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง และตกแต่งด้วยดอกไม้มงคลอย่าง ดอกบ๊วย เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับบ้านเรือน
สวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส
การสวมใส่เสื้อผ้าใหม่ในวันตรุษจีนถือเป็นการต้อนรับปีใหม่ โดยนิยมเลือกสีแดงซึ่งเป็นสีมงคล หรือสีสดใสอื่น ๆ เช่น สีทอง สีส้ม แต่ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงสีดำและสีขาว ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นสีแห่งความโศกเศร้านั่นเอง
มอบอั่งเปาให้กับเด็ก ๆ และผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน
อั่งเปา คือ ซองสีแดงที่ใช้สำหรับใส่เงิน เพื่อมอบให้เด็ก ๆ และผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ซึ่งการให้อั่งเปานั้นควรใช้ธนบัตรใหม่ และใส่จำนวนเงินที่เป็นเลขมงคล มีความเชื่อว่าการมอบอั่งเป่าให้ในวันตรุษจีนนั้นจะนำพาโชคลาภมาสู่ทั้งผู้ให้และผู้รับ
อวยพรให้แก่กัน
หากถามว่าวันตรุษจีนทำอะไรบ้าง แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ การมอบคำอวยพรให้แก่กัน ซึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีคำพูดมงคลมากมาย เช่น “กงสีฟาไช้” (ขอให้ร่ำรวย) “ซินเจียยู่อี่” (สวัสดีปีใหม่) “ซินนี้ฮวดไช้” (ขอให้มีความสุขในปีใหม่) เป็นการแสดงความปรารถนาดี และส่งต่อความเป็นมงคลให้แก่กัน
ไหว้ขอพรผู้ใหญ่ด้วยส้ม 4 ผล
การไหว้ผู้ใหญ่ด้วยส้มถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำคัญในวันตรุษจีนเลยก็ว่าได้ โดยจะมีการเลือกส้มที่ผิวสวย ไม่มีรอยช้ำ จำนวน 4 ผล มามอบให้ เพราะมีความเชื่อว่าเลข 4 ในภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงคล้ายคำว่า “กิก” พ้องกับคำว่า ความสุข หรือ โชคลาภ นอกจากนี้ส้มยังเป็นผลไม้มงคลที่มีสีเหมือนทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและร่ำรวย
เยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่
การเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ในวันตรุษจีน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อผู้ใหญ่และกระชับความสัมพันธ์อันดี โดยสิ่งที่นิยมนำมามอบให้เป็นของขวัญ ได้แก่ ผลไม้มงคล ขนมหวาน หรือของใช้ที่สื่อความหมายในแง่ดีและเป็นคำอวยพร
กินเจมื้อเช้า
เชื่อกันว่าการรับประทานอาหารเจในเช้าวันตรุษจีน จะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความบริสุทธิ์ โดยเมนูอาหารเจที่นิยมทานกันในช่วงนี้ คือ เต้าหู้ ผักต่าง ๆ และขนมหวานที่ทำจากถั่ว โดยเชื่อกันว่าจะช่วยชำระจิตใจและนำพาสิ่งดี ๆ มาสู่ชีวิต
สวดมนต์และทำบุญที่วัดหรือศาลเจ้า
ถือเป็นอีกหนึ่งเช็กลิสต์สำคัญว่า วันตรุษจีนต้องทำอะไรบ้าง เพื่อขอพรให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ผู้คนจึงมักไปวัดหรือศาลเจ้ากันในช่วงนี้ ซึ่งจะนิยมจุดธูปบูชาเทพเจ้า สวดมนต์ขอพร ทำบุญตักบาตร ปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อสร้างกุศลและเสริมบารมี
วันตรุษจีน ไม่ควรทำอะไรบ้าง
ในช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากสิ่งที่ควรปฏิบัติแล้ว ยังมีข้อห้ามต่าง ๆ ที่สืบทอดกันมาตามความเชื่อโบราณ สำหรับข้อห้ามที่ไม่ควรทำในช่วงตรุษจีน มีดังนี้
ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
ตามความเชื่อโบราณ การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการชะล้างโชคลาภให้หลุดไป เพราะในภาษาจีน คำว่า “ซักผ้า” มีเสียงพ้องกับคำว่า “ล้างโชค” จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมงคล ฉะนั้นจึงควรซักเสื้อผ้าให้เสร็จก่อนวันตรุษจีน
ห้ามทำของแตก
การทำของแตกหรือพังในช่วงตรุษจีนถือเป็นลางไม่ดี เพราะเชื่อว่าจะนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการทำของใช้ในครัวแตก เช่น ถ้วย ชาม หรือแก้วน้ำ จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
ห้ามทำความสะอาดบ้าน
ในวันตรุษจีนห้ามกวาดบ้าน ถูพื้น หรือทำความสะอาดใด ๆ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดโชคลาภออกจากบ้าน ควรทำความสะอาดบ้านให้เสร็จสิ้นก่อนวันตรุษจีน และเก็บไม้กวาด ไม้ถูพื้นให้พ้นสายตา
ห้ามสระผม หรือ ตัดผมเล็บ
เชื่อกันว่าหากสระผมหรือตัดผมในวันตรุษจีนจะถือเป็นการตัดโชคลาภ เพราะในภาษาจีนคำว่า “ผม” มีความหมายคล้ายกับคำว่า “เฮง” หรือ “โชค” การตัดผมจึงเหมือนเป็นการตัดโชคของตัวเองทิ้งไป ฉะนั้นควรสระผมและตัดผมให้เรียบร้อยก่อนถึงวันตรุษจีน
ห้ามกินโจ๊ก
มีความเชื่อว่าการรับประทานโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ชีวิตลำบากตลอดทั้งปี เพราะโจ๊กเป็นอาหารที่คนยากจนหรือขัดสนมักรับประทาน จึงถือเป็นสิ่งไม่เป็นมงคล และเพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีที่ดี จึงควรรับประทานอาหารมงคลแทน เช่น ขนมตรุษจีน หรืออาหารที่มีความหมายดี ๆ นั่นเอง
ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
การซื้อรองเท้าใหม่ในวันตรุษจีนถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะคำว่า “รองเท้า” ในภาษาจีนมีเสียงพ้องกับคำว่า “ทุกข์” หรือ “ความลำบาก” จึงเชื่อกันว่าการซื้อรองเท้าใหม่ในช่วงตรุษจีนถือเป็นสิ่งไม่เป็นมงคล
ห้ามพูดคำหยาบและห้ามทะเลาะ
การพูดจาไม่ดีหรือทะเลาะวิวาทในช่วงตรุษจีนถือเป็นการนำความโชคร้ายมาสู่ตนเองและครอบครัว ควรพูดแต่คำมงคล คำอวยพร ทั้งนี้หากเกิดความเห็นต่าง ก็ควรใช้วิธีพูดคุยด้วยความใจเย็น เพื่อรักษาความสามัคคีในครอบครัวไว้
ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
การเข้าไปในห้องนอนผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตในวันตรุษจีน ถือเป็นการไม่ให้เกียรติและอาจนำโชคร้ายมาสู่เจ้าของห้อง ฉะนั้นควรเคารพพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่น เพื่อรักษาความสัมพันธ์
ห้ามใส่ชุดขาว
ในวัฒนธรรมจีนมีความเชื่อว่าสีขาวเป็นสีแห่งความโศกเศร้า และการไว้ทุกข์ การสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวในวันตรุษจีนถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ควรเลือกใส่เสื้อผ้าสีมงคล เช่น สีแดง สีทอง เป็นต้น
ห้ามใช้ของมีคม
เชื่อกันว่าการใช้มีดหรือของมีคมในวันตรุษจีนถือเป็นการตัดโชคลาภ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมทุกชนิด หรือถ้าจำเป็นต้องใช้ ควรใช้ด้วยระมัดระวังเป็นพิเศษ
ห้ามให้ยืมเงิน
การให้ยืมเงินในวันตรุษจีนเชื่อว่าจะทำให้เสียเงินตลอดทั้งปี และอาจทำให้มีปัญหาเรื่องการเงินในอนาคต ควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภทในวันนี้
ห้ามร้องไห้
ในวันตรุษจีนนั้นการร้องไห้ถือว่าเป็นลางร้าย เชื่อว่าจะนำความทุกข์และความโศกเศร้ามาสู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเด็ก ๆ ผู้ใหญ่จึงมักจะปลอบและให้ขนมเพื่อไม่ให้เด็กร้องไห้
กิจกรรมวันตรุษจีน มีอะไรบ้าง
วันตรุษจีนเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยขนบธรรมเนียม กิจกรรมที่สะท้อนถึงความเชื่อ และวัฒนธรรมของชาวจีน ซึ่งแต่ละกิจกรรมล้วนมีความหมายดี และสื่อถึงความสุข ความสมบูรณ์ และโชคลาภตลอดปี สำหรับกิจกรรมที่นิยมทำกันนั้นมี ดังนี้
- ไหว้บรรพบุรุษ : ประเพณีสำคัญที่แสดงถึงความเคารพต่อผู้ล่วงลับ ด้วยการจัดเครื่องเซ่นไหว้ที่ประกอบด้วยอาหารคาว-หวาน ผลไม้มงคล ธูปเทียน และกระดาษเงินกระดาษทอง การไหว้มักทำในช่วงเช้าตรู่ของวันตรุษจีน เพื่อขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง
- แจกซองแดง : อั่งเปาหรือซองแดงใส่เงิน เป็นธรรมเนียมที่ผู้ใหญ่มอบให้แก่เด็ก ๆ และผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน เชื่อว่าจะนำโชคลาภมาสู่ทั้งผู้ให้และผู้รับ
- กินอาหารมงคล : ชาวจีนมีความเชื่อเรื่อง อาหารมงคลว่า เมื่อถึงปีใหม่หรือ ตรุษจีน ต้องรับประทานอาหารที่มีความหมายดี ๆ ร่วมกับครอบครัว ญาติมิตร โดยความหมายของชื่ออาหารนั้น จะสื่อถึงแต่เรื่องที่เป็นมงคล เช่น ปลาทั้งตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ เป๋าฮื้อแทนความมั่งคั่ง ผัดหมี่แทนอายุยืนยาว และขนมเข่งแทนความก้าวหน้า การรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความอบอุ่น
- ใช้สีแดงตกแต่งบ้านเรือน : สีแดงในวัฒนธรรมจีนมีความหมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และความสุข ผู้คนจึงนิยมการตกแต่งบ้านด้วยสีแดง เพราะเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและนำพาสิ่งดี ๆ เข้ามาในบ้าน
- การเยี่ยมญาติ : การเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ในช่วงตรุษจีนถือเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ ซึ่งกิจกรรมนี้นับเป็นโอกาสดี ที่ครอบครัวจะได้พบปะสังสรรค์ กระชับความสัมพันธ์ และสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน
อาหารและขนมมงคลของวันตรุษจีน
ในช่วงเวลาสำคัญอย่างตรุษจีนนี้อาหารและขนมต่าง ๆ ไม่เพียงแต่มีความหมายในแง่ของความอร่อย แต่ยังแฝงไปด้วยความหมายมงคลที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และความสุขสมบูรณ์ เริ่มจาก
- ปลาทั้งตัว : ปลาทั้งตัวเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารวันตรุษจีน เพราะคำว่า “ปลา” ในภาษาจีนออกเสียงว่า “หยู่” พ้องเสียงกับคำว่า “เหลือ” หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้เหลือเฟือ นิยมทำปลานึ่งซีอิ๊วหรือปลาทอดราดน้ำเปรี้ยวหวาน
- เกี๊ยวน้ำ : เกี๊ยวมีรูปร่างคล้ายก้อนทองโบราณของจีน จึงเชื่อว่าการกินเกี๊ยวจะนำมาซึ่งความมั่งคั่งร่ำรวย นิยมทำเกี๊ยวไส้หมู ไส้กุ้ง หรือไส้ผัก
- บะหมี่อายุยืน : เส้นบะหมี่ที่ยาวเป็นพิเศษ สื่อถึงชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพแข็งแรง โดยเวลารับประทานห้ามตัดเส้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้อายุสั้น
- ขนมเข่ง : ขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล และถั่ว มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า “เหนียนเกา” ซึ่งมีความหมายว่า “ปีสูง” สื่อถึงการเจริญก้าวหน้า ส่งเสริมให้ชีวิตสูงขึ้นและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ปี
- ขนมถ้วยฟู : ขนมที่ขึ้นฟูสวยงาม คำว่า “ฟา” ในภาษาจีนแปลว่า “เฟื่องฟู รุ่งเรือง” จึงเชื่อว่าการรับประทานขนมถ้วยฟูจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
เมนูต้องห้ามในวันตรุษจีน
นอกจากอาหารมงคลที่ควรรับประทานแล้ว ยังมีอาหารที่ถือเป็นข้อห้ามเนื่องจากความเชื่อทางวัฒนธรรม รวมถึงความพ้องทั้งการออกเสียงและความหมายของชื่อเรียก ดังนี้
- เต้าหู้ขาว : ตามความเชื่อวัฒนธรรมจีน สีขาว ถือเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ ฉะนั้นจึงมีความเชื่อกันว่าหากทานเต้าหู้ขาวในวันตรุษจีนเป็นการนำโชคร้ายมาให้ ควรเลี่ยงไปทานเต้าหู้ชนิดอื่นแทน เช่น เต้าหู้ทอด หรือเต้าหู้ห่อทอง
- โจ๊กขาว : เช่นเดียวกับเต้าหู้ขาว โจ๊กขาวถือเป็นอาหารที่สื่อถึงความยากจนและการไว้ทุกข์ หากต้องการทานโจ๊ก ควรเลือกโจ๊กที่มีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น โจ๊กหมู โจ๊กไก่
- บะหมี่หัก : หากรับประทานบะหมี่ที่หักหรือขาดเป็นท่อนสั้น ๆ เชื่อว่าจะทำให้อายุสั้น หรือชีวิตไม่ราบรื่น ควรทานบะหมี่เส้นยาวที่ไม่ขาด เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
- อาหารรสเผ็ดจัด : เชื่อว่าความเผ็ดจะนำพาความร้อนรนและปัญหามาสู่ชีวิต ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพริกเป็นส่วนประกอบหลัก หากจำเป็นต้องปรุงอาหารที่มีรสเผ็ด ควรปรุงในระดับที่ไม่เผ็ดมาก
- อาหารที่ความหมายไม่ดี : ความหมายที่ไม่ดีในที่นี้หมายถึง การตีความจากภาษาจีนโดยตรง ไม่ใช่จากความหมายในภาษาไทย เช่น เมนูหมึกผัด ซึ่งในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำที่แปลว่า “ตกงาน” ดังนั้น หากเลือกเมนูอาหารสำหรับวันตรุษจีน ควรตรวจสอบความหมายในภาษาจีนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเมนูที่ความหมายดี
- อาหารเหลือจากปีเก่า : ห้ามนำอาหารเหลือจากปีเก่ามารับประทานในวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าจะทำให้โชคร้ายจากปีเก่าติดตามมาในปีใหม่ ควรปรุงอาหารใหม่ทั้งหมดสำหรับเทศกาลตรุษจีน
เทศกาลตรุษจีนเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมตัวของครอบครัว การเตรียมพร้อมด้านการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเช่ารถ ที่เหมาะสมจะช่วยให้การเฉลิมฉลองเทศกาลเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางไกล เพื่อกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ในต่างจังหวัด
หากคุณกำลังมองหารถเช่าที่ Drive Car Rental เรามีบริการเช่ารถกรุงเทพ และเช่ารถภูเก็ต รวมไปถึงพื้นที่ให้บริการอื่น ๆ ที่ครอบคลุมทั่วไทย เพื่อมอบความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับคุณ ในทุกการเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล