
ช่วงปลายฝนต้นหนาว ถือเป็นอีกช่วงท่องเที่ยวของปีที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะจะให้บรรยากาศแตกต่างจากฤดูอื่น ไม่ว่าจะสภาพอากาศเย็นสบาย ที่ไม่หนาวหรือร้อนจัดจนเกินไป ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างแม่คะนิ้งหรือทะเลหมอกที่สามารถหาดูได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น รวมถึงการชมแสงแรกและแสงสุดท้ายของวัน ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่หลายแห่งที่ตอบโจทย์และสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์อันสวยงามเหล่านี้ได้
ดังนั้นในบทความนี้ เราจะขอมาแนะนำ 20 จุดชมทะเลหมอกต่าง ๆ ของไทย เพื่อให้ทุกคนได้ตัดสินใจกันว่าปลายฝนต้นหนาวเที่ยวไหนดี และสามารถวางแผนการท่องเที่ยวรวมถึงเตรียมพร้อมเรื่องการเดินทางกันไว้ล่วงหน้าได้ เช่นติดต่อใช้บริการรถเช่ากรุงเทพกับ Drive Car Rental เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง สำหรับที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราอยากแนะนำจะมีดังต่อไปนี้
1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ยอดเขาที่สูงที่สุดของไทย อุดมไปด้วยป่าดิบชื้น, พรรณไม้อันอุดมสมบูรณ์ และนกนานาชนิด มาพร้อมกับเมฆหมอกที่สวยงาม โดยที่นี่จะมีอากาศอันหนาวเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งเป็นฤดูหนาวก็จะมีหมอกปกคลุมแทบทั้งวัน รวมถึงน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสิ่งชีวิตตามธรรมชาติบางชนิดที่สามารถหาดูได้แค่ที่นี่เท่านั้น เช่นเลียงผา, ลิงอ้ายเงี้ยะ, หมีควาย, เต่าปูลู, เต่าเดือย, ปลาค้างคาวดอยอินทนนท์ ไปจนถึงหนูผีอ่างกา
ที่อยู่: ตำบลบ้านหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/WbgMdypqT6YaGYQk9
เวลาเปิด-ปิด: 05:00 – 18:00 น.
2. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

อีกหนึ่งยอดดอยที่สวยที่สุดของไทย และยังสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น รู้จักกันดีในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเชียงราย เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าโบราณ เช่น อาข่า หรือม้ง โดยนอกจากทะเลหมอกแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่งดงามอีกด้วย ซึ่งพระอาทิตย์จะขึ้นที่บริเวณแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดอย่างหัวสิงห์ แต่การจะมาเที่ยวที่นี่ด้วยรถยนต์แนะนำให้ใช้รถที่มีช่วงล่างแข็งแรง และมีความคล่องตัว เพราะเส้นทางขึ้นภูชี้ฟ้านั้นมีความลาดชันเป็นอย่างมาก
ที่อยู่: หมู่ 9 บ้านร่มฟ้าทองและบ้านร่มฟ้าไทย ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/n1UqcFtDqjRg6RbH7
เวลาเปิด-ปิด: 04:30 – 18:00 น.
3. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ถึงจะเป็นอำเภอเล็ก ๆ แต่นี่ก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของไทย ตั้งอยู่กลางกำแพงขุนเขาที่สลับซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายของนักเดินทางทุกกลุ่ม นอกจากร้านอาหาร ของฝาก และสถานบันเทิงต่าง ๆ แล้ว ก็ยังมีสถานที่สำคัญอย่าง สะพานประวัติศาสตร์ (ท่าปาย) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงของญี่ปุ่นไปยังเมียนมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
และที่พลาดไม่ได้เลยคือ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จุดชมวิวทะเลหมอกและแสงอาทิตย์ยอดนิยม รวมถึงทำกิจกรรมลงไปแช่น้ำหรือต้มไข่ที่บ่อน้ำร้อนธรรมชาติอย่างโป่งน้ำร้อนท่าปายได้อีกด้วย นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวอีกแห่งที่พลาดไม่ได้
ที่อยู่: ถนนชัยสงคราม อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/SeGvzB7fuXmQu1hj6
เวลาเปิด-ปิด: –
4. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

ถ้าในบทความ หน้าฝนเที่ยวไหนดีใกล้กรุงเทพ มีไฮไลต์คือ เขาช่องลม สำหรับบทความนี้ ก็ต้องเป็น ดอยอ่างขาง อย่างแน่นอน หนึ่งในที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่สวยอันดับต้น ๆ ของไทย มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดปี มาพร้อมทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม เหมาะสำหรับการนอนเต็นท์ชมทะเลหมอกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอากาศที่เย็นตลอดปี ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยพืชพรรณเมืองหนาวหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะที่อุโมงค์ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งสายถ่ายภาพไม่พลาดจะแวะเก็บความทรงจำ นอกจากนี้ยังสามารถไปเที่ยวชมวัฒนธรรมของชาวเขาอย่างหมู่บ้านนอแลและหมู่บ้านขอบด้งได้อีกด้วย
ที่อยู่: ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/KomGfZNjBdKF89w28
เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น. (วันเสาร์เปิดถึง 18:00 น.)
5. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

จุดชมวิวที่มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามแนวสันเขา ท้องฟ้าไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนก็ปลอดโปร่งและสวยงาม โดยเฉพาะยามค่ำคืนนั้นสามารถมองเห็นดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน จนเป็นที่มาของชื่อ ดอยเสมอดาว ที่นี่อากาศเย็นตลอดทั้งปี เพราะสภาพภูมิประเทศแบบลานกว้าง ทำให้รับลมได้ทุกทิศทาง และช่วงหน้าหนาวบางปีอุณหภูมิสามารถลดไปถึงเลขหลักเดียวได้ และถ้าใครอยากดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกด้วย ก็สามารถรอดูได้ที่ผาหัวสิงห์ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน
ที่อยู่: ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/yHRZCrd7kRizLgq5A
เวลาเปิด-ปิด: –
6. แม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่

หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลราว 1,300 เมตร มาพร้อมป่าธรรมชาติที่เขียวชอุ่มและร่มเย็น มีธารน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ด้วยความที่หมู่บ้านนี้มีอาชีพปลูกชาและกาแฟ ทำให้ทริปจิบกาแฟเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะที่ร้านกาแฟบนต้นไม้อย่าง The Giant Swing แต่ไฮไลต์สำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือการนอนชมทางช้างเผือกบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภาพที่โรแมนติกเป็นอย่างยิ่ง หรือตกเย็นก็สามารถไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ กิ่วฝิ่น ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแม่กำปอง
ที่อยู่: ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/nTkWPSiJvGUWB6o3A
เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 20:00 น.
7. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย

สำหรับนักจิบชาที่เลือกไม่ถูกว่า เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่ไหนดี ยอดดอยสูงซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเก่าแก่แห่งนี้อาจจะถูกใจใครหลาย ๆ คน ด้วยวิถีชีวิตที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีน ทั้งอาหารและการแต่งกาย รวมถึงยังเป็นพื้นที่ปลูกชาที่ใหญ่และดีที่สุดของไทย เท่านั้นยังไม่พอ บนจุดสูงสุดของดอยนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี ซึ่งได้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่าของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่จะมาเที่ยว เพื่อจิบชาชมบรรยากาศเป็นอย่างยิ่ง
ที่อยู่: ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/L2F6sw9MmQSwGNEq7
เวลาเปิด-ปิด: –
8. ภูกระดึง จังหวัดเลย

อุทยานแห่งชาติลำดับที่สองของไทย ที่ได้ชื่อว่าเป็น ขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย ล้อมรอบไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงแลนด์มาร์กทางธรรมชาติอย่างหน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก รวมถึงการเป็นต้นน้ำสำคัญของภาคอีสานอย่างลำน้ำพอง มาพร้อมอากาศที่เย็นตลอดปี ซึ่งฤดูหนาวนั้นสามารถลดลงไปได้ถึง 0 องศาเซลเซียสได้เลย โดยการขึ้นไปจุดสูงสุดของภูกระดึงนั้นเป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะต้องเดินเท้าขึ้นไปถึง 9 กิโลเมตร ทางขึ้นเขา 5 กิโลเมตร และทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางสำหรับพิสูจน์ความอดทนที่ผู้รักการผจญภัยไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
ที่อยู่: ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/4xHK6utoUxnBguwG7
เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 13.00 น. (วันธรรมดา), 05.30 – 13.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
9. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 11 อำเภอของ 4 จังหวัด ตั้งอยู่ในเทือกเขาสันกำแพง ทอดยาวไปถึงดงพญาเย็น เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นช้าง, เก้ง, กระทิง, กวางป่า ไปจนถึงเสือ และที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักธรรมชาติและรักการผจญภัยอีกแห่งเลยก็ว่าได้
ที่อยู่: ตู้ ปณ. 9 ปท.ปากช่อง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/o4amGVGhShfutb3P7
เวลาเปิด-ปิด: 06:00 – 18:00 น.
10. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเชียงใหม่ ที่สามารถชิมอาหารอร่อย และสัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาอย่างใกล้ชิด โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปเพียง 40 นาทีเท่านั้น ที่นี่มีอากาศเย็นสบายและมีหมอกหนาปกคลุมในช่วงฤดูหนาว เมื่อขึ้นมาอยู่บนนี้ ก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์, ดอยสุเทพ และดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งถ้าเลือกมาช่วงปีใหม่อาจจะต้องพิจารณา เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุด
ที่อยู่: ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/VVhWWdVMGzghYd7g6
เวลาเปิด-ปิด: 07:00 – 20:00 น.
11. หมู่บ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ถ้าโจทย์เรื่อง ปลายฝนต้นหนาวเที่ยวไหนดี มีกาแฟอยู่ในสมการ ที่แห่งนี้อาจเป็นคำตอบแรกในใจใครหลายคน กับแหล่งเพาะปลูกกาแฟอะราบิกาปลอดสารพิษคุณภาพเยี่ยมแบบครบวงจรที่ได้ส่งออกให้กับกาแฟแบรนด์ดังระดับโลก รวมถึงแหล่งผลิตผ้าทอขนแกะหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ช่วยสร้างรายได้และอาชีพให้กับชาวปกาเกอะญอ
สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติและวิธีชุมชน ก็สามารถค้างคืนแบบโฮมสเตย์ แล้วลุกขึ้นมาสูดอากาศเย็น พร้อมจิบกาแฟยามเช้าได้อีกด้วย
ที่อยู่: ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พิกัด: https://goo.gl/maps/u32okZRax2295vbZA
เวลาเปิด-ปิด: –
12. น้ำตกปิตุ๊โกร จังหวัดตาก

น้ำตกรูปขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็น Unseen Thailand ที่ได้ชื่อว่า หัวใจแห่งอุ้มผาง เพราะเป็นสายน้ำตกสีขาวนวลที่มีรูปร่างคล้ายหัวใจ ซึ่งชื่อ ปิตุ๊โกร นั้นมาจากภาษาของชาวปกาเกอะญอ โดย ปิตุ๊ หมายถึงกระท่อม และ โกร หมายถึงลำห้วย ถึงแม้ช่วงเวลาที่น่ามาเที่ยวที่สุดจะเป็นหน้าฝน แต่ในฤดูหนาวเองก็จะให้บรรยากาศที่เย็นสบายไม่แพ้กัน
ที่อยู่: ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7iRhQpxaZkE3PivK8
เวลาเปิด-ปิด: –
13. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายที่สุด ไม่ว่าจะผืนป่าธรรมชาติ, สวนสัตว์, ไร่องุ่น, ตลาดชุมชน, คาเฟ่ และบ้านพักตากอากาศ ซึ่งมีบางมุมที่อาจจะดูเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวมอญห้วยน้ำใส ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตได้อย่างเต็มที่ และที่พลาดไปไม่ได้เลยก็คือการมาชมทะเลหมอกที่เขากระโจม พร้อมชมทะเลดาวยาวค่ำคืนที่จุดชมวิวห้วยคอกหมู เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่ครบเครื่องทั้งเชิงธรรมชาติ, เกษตร และวัฒนธรรมอย่างแท้จริง
ที่อยู่: ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/zdNGhEDLSUhENVVA6
เวลาเปิด-ปิด: –
14. หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี

เดิมเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของเหมืองปิล๊อก แหล่งแร่ดีบุกขนาดใหญ่ของไทยที่ต้องปิดตัวไปจากกระแสราคาแร่ตกต่ำทั่วโลก ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นเมืองท่องเที่ยวโฮมสเตย์ที่สามารถสัมผัสธรรมชาติและอากาศที่เย็นสบายได้ นอกจากนี้ยังสามารถเดินเที่ยวในชุมชน ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น และทำสัญลักษณ์ว่าเคยมาเยือนด้วยการผูกป้ายที่สะพานของหมู่บ้าน
ที่อยู่: ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/TUvL2kKEx8zVmVU19
เวลาเปิด-ปิด: –
15. เชียงคาน จังหวัดเลย

อำเภอเล็ก ๆ อันเงียบสงบริมฝั่งโขง ที่ยังรักษาวิธีชีวิตอันเรียบง่ายมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวคอยแวะเวียนมาอยู่มากมายก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่ คือกิจกรรมสัมผัสชีวิตชุมชน ไม่ว่าจะการตื่นเช้ามาตักบาตรข้าวเหนียว ปั่นจักรยานชมเมือง แวะชมและไหว้พระตามวัดสำคัญ ๆ รวมถึงการเสพทิวทัศน์ของทะเลหมอกยามเช้า สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่า ปลายฝนต้นหนาวเที่ยวไหนดี แบบไม่ต้องผจญภัยอะไรมากนัก การได้มาที่นี่จะกลายเป็นทริปอันแสนเรียบง่ายแต่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน
ที่อยู่: อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/9fkLEizsgD7Ymqst8
เวลาเปิด-ปิด: –
16. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

อีกหนึ่งแหล่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวของภาคเหนือ ซึ่งไม่ควรมองข้ามเมื่อจะมาเที่ยวเพชรบูรณ์ เป็นอำเภอที่เหมือนศูนย์รวมความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งในด้านพืชพรรณและสัตว์ป่า รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่าง อนุสาวรีย์จีนฮ่อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ไปจนถึงพระบรมธาตุเจดีย์ และพระตำหนักเขาค้อ โดยถ้าต้องการสัมผัสความหนาวเย็นแบบเต็มที่ แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงหน้าหนาวซึ่งมีอากาศเย็นจัด แต่สำหรับผู้ตั้งใจจะขับรถมา แนะนำให้เลี่ยงการเหมารถบัส เนื่องจากมีทางโค้งจำนวนมาก อีกทั้งถนนยังแคบและลาดชัน
ที่อยู่: ตำบลเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/2T1gYMF9Y5639msf9
เวลาเปิด-ปิด: –
17. ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก

แหล่งท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวจากพื้นที่การเกษตรของชาวเขาเผ่าม้ง ตั้งอยู่บนดอยบ้านป่าหวาย มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยที่นี้สามารถชมทะเลหมอกได้ทั้งช่วงเช้าและเย็น ชนิดที่ว่าสามารถชมภาพสุดอัศจรรย์นี้ได้ 360 องศา ด้านบนนี้จะมีที่สิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการมากมาย ทั้งลานกางเต็นท์, ร้านอาหาร, ร้านค้า, หมูกระทะ และร้านกาแฟ
ที่อยู่: ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/M5vAcQGgBFPSWtRi9
เวลาเปิด-ปิด: 05:00 – 22:00 น.
18. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

ใครว่าปลายฝนต้นหนาวจะเที่ยวดอยได้อย่างเดียว ในเมื่อเราสามารถลงใต้มาเที่ยวเกาะได้ โดยที่แห่งนี้เป็นหมู่เกาะในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนไทยเมียนมา ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) และเกาะรี (เกาะสต๊อก)
ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นั้น เป็นแหล่งของปะการังน้ำตื้นที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดของไทย อีกทั้งสามารถพบสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่นฉลามวาฬ และเต่าทะเลขนาดใหญ่ถึง 4 สายพันธุ์ ไปจนถึงนกหายากอย่าง นกชาปีไหน และไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือการเรียนรู้วิถีชุมชนชาวมอแกนซึ่งเป็นชุมชนพื้นเมืองกลุ่มสุดท้ายที่ยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม
ที่อยู่: ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/QkwnDD6SJEs7GeWG6
เวลาเปิด-ปิด: –
19. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อดีตเกาะร้างในอ่าวไทยที่กลายเป็นจุดดำน้ำระดับโลก เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ของปะการังน้ำลึกและน้ำตื้น รวมถึงปลาอีกหลากหลายชนิด อีกทั้งรอบ ๆ เกาะนี้มีจุดดำน้ำมากถึง 20 แห่ง ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักดำน้ำ ถูกยกให้เป็น 1 ใน 10 แหล่งเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดของโลกของเว็บไซต์ Lonely Planet และได้เข้าไปอยู่ 10 อันดับแรกของเกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจาก Tripadvisor เท่านั้นยังไม่พอ ที่นี่ยังเป็นเกาะยอดนิยมอันดับ 5 ของโลก และอันดับหนึ่งของเอเชีย ซึ่งไม่ใช่แค่ใต้น้ำ บนเกาะเองก็มีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะหาดทรายขาวละเอียด รวมถึงบรรยากาศสงบเงียบ
ถึงแม้ช่วงที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวจะเป็นหน้าร้อน แต่ช่วงปลายฝนต้นหนาวก็ยังคงมีอากาศเย็นสบายกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
ที่อยู่: ตำบลเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/tQmiaKsRT66gPzyBA
เวลาเปิด-ปิด: –
20. เกาะรอก, กระบี่

เจ้าของฉายา ราชินีแห่งอันดามัน เป็นเกาะแฝดที่ประกอบด้วยเกาะรอกนอก และเกาะรอกใน ซึ่งอยู่ห่างกันแค่ 100 เมตรเท่านั้น ความโดดเด่นของที่นี่คือหาดทรายขาวละเอียดหลายร้อยเมตร น้ำทะเลสีฟ้าใส อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของปะการังและปลายหลากหลายสายพันธุ์ ถ้าโชคดีก็อาจจะได้พบกับสัตว์หายากอย่างฉลามวาฬ เมื่อขึ้นฝั่งมา ก็สามารถเดินชมธรรมชาติอันสวยงามบนเส้นทางธรรมชาติของอุทยานได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถรอชมแสงแรกและแสงสุดท้ายของวันที่สวยงามได้อีกด้วย
ที่อยู่: ตำบลเกาะลิบง จังหวัดตรัง (แต่ขึ้นตรงกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา และตั้งในน่านน้ำ จังหวัดกระบี่)
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/67m1EeGVkPQeZdWW6
เวลาเปิด-ปิด: –
และทั้งหมดนี้ ก็คือแหล่งท่องเที่ยวที่ครอบคลุมทุกโจทย์และไลฟ์สไตล์ที่มองหา ไม่ว่าจะขึ้นดอย, เดินป่า, เที่ยวชุมชน ไปจนถึงดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ซึ่งหวังว่าที่เที่ยวทั้ง 20 แห่งนี้ จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ปลายฝนต้นหนาวเที่ยวไหนดี
ส่วนใครที่กำลังมองหาบริการเช่ารถเพื่อการเดินทางอย่างสะดวกสบายในทริปที่กำลังวางแผนอยู่นี้ ก็สามารถมาเลือกรถรุ่นที่ตอบโจทย์ได้ที่ Drive Car Rental ผู้ให้บริการรถเช่าที่มีศูนย์บริการทั่วประเทศ ทั้งรถเช่าในกรุงเทพ และรถเช่าภูเก็ต ที่มีคุณภาพและราคาประหยัดทั้งแบบรายวันและรายเดือน มั่นใจในความสะดวกและปลอดภัย ด้วยบริการตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ รับ-ส่งรถให้ถึงที่ พร้อมดูแล 24 ชั่วโมงในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน หากสนใจบริการรถยนต์สำหรับการท่องเที่ยว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หน้าเว็บไซต์